ข้อมูลจาก Bloomberg World Airlines Index บ่งชี้ว่า หุ้นของสายการบินในภูมิภาคเอเชียปรับตัวดีที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั่วโลกในปีนี้ โดยได้ประโยชน์จากการที่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียเริ่มเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยว แม้ว่าจีนยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid Policy) ด้วยการล็อกดาวน์เมืองสำคัญและจำกัดการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ก็ตาม
Bloomberg World Airlines Index ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นสายการบินทั่วโลกระบุว่า มีแต่หุ้นของสายการบินในเอเชียเท่านั้นที่ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์สของฮ่องกง ซึ่งทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 31% แล้วในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ หุ้นคาเธ่ย์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่รัฐบาลฮ่องกงออกมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 แต่ราคาหุ้นของคาเธ่ย์ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากฮ่องกงประกาศผ่อนคลายมาตรการกักตัวในโรงแรม
ราคาหุ้นของสายการบินอีวีเอ แอร์เวย์สของไต้หวัน, เจแปน แอร์ไลน์และเอเอ็นเอ แอร์ไลน์ของญี่ปุ่นทะยานขึ้นมากกว่า 10% แล้วในปีนี้ ขณะราคาหุ้นของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ และแควนตัส แอร์เวย์ของออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ส่วนดัชนี Bloomberg World Airlines Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นสายการบิน 29 รายนั้น ร่วงลง 15% โดยราคาหุ้นของอีซีเจ็ตซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษดิ่งลงหนักสุดถึง 34%
"ภูมิภาคเอเชียเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้ง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้วในสหรัฐและยุโรป โดยทวีปเอเชียล้าหลังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกในด้านการเปิดประเทศ" นายทิม แบคคัส นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) กล่าว
นายแบคคัสยังกล่าวด้วยว่า ราคาหุ้นของสายการบินในภูมิภาคเอเชียพุ่งขึ้น แม้ว่าจีนยังคงใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ก่อนที่การประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จะเปิดฉากขึ้นในเดือนต.ค. โดยล่าสุดเมืองเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนได้ขยายมาตรการล็อกดาวน์ แม้พบผู้ติดเชื้อไม่กี่ร้อยคนก็ตาม