สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว ขณะทรงมีพระชนมายุ 96 พรรษา และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ จะขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ของอังกฤษ
-- อังกฤษประกาศไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นเวลา 10 วัน โดยจะมีการลดธงลงครึ่งเสาทั่วสหราชอาณาจักร
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (8 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์ หลังจากตลาดอ่อนแรงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่น "อย่างแรงกล้า" ในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดหวังว่าการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดต้นทุนทางสังคมที่สูงเกินไป
นอกจากนี้ นายพาวเวลระบุว่า การยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้
-- อินเดีย ซึ่งส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก ประกาศแผนเก็บภาษีส่งออกข้าวบางส่วน เพื่อรักษาปริมาณข้าวในประเทศหลังอินเดียมีการเพาะปลูกลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดอาหารทั่วโลก
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเมื่อคืนนี้ ตามการคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสู่ระดับ 0.75% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์สู่ระดับ 1.25% รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สู่ระดับ 1.50% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ก.ย.
นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า "อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB เป็นระยะเวลาหนึ่ง"
-- นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 88% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 12% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 612,254,930 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,510,313 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. เวลา 21.00 น. ตามเวลาไทย