นายโรเบิร์ต ฮาเบก รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเตือนว่า ธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศมีความเสี่ยงที่จะต้องปิดกิจการ เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อสูงและวิกฤตด้านพลังงาน ทั้งนี้ นายฮาเบกได้ขยายเวลาการใช้มาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
นายฮาเบกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า "มีความเสี่ยงที่ธุรกิจจะปิดตัวลง และเราต้องใช้มาตรการรับมือกับเรื่องนี้ ราคาพลังงานและข้าวสาลีที่พุ่งสูงขึ้นประกอบกับภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน ได้สร้างแรงกดดันต่อภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง นี่เป็นปัญหารุนแรงมาก"
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อเยอรมนีพุ่งแตะระดับ 7.9% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาอาหารพุ่งขึ้นเป็น 2 เท่า และราคาพลังงานพุ่งขึ้น 35.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ผลสำรวจของสำนักงานสถิติเยอรมนีระบุว่า กว่า 90% ของบริษัทในเยอรมนีมองว่า ราคาพลังงานและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันถือเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจ