สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษระบุในแถลงการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ ขยายตัว 0.2% ในเดือนก.ค. หลังปรับตัวลดลง 0.6% ในเดือนมิ.ย.
การปรับลดลงครั้งใหญ่ของเดือนมิ.ย.ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวันหยุดพิเศษ เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ก่อนพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ตัวเลข GDP ที่ฟื้นตัวเล็กน้อย 0.2% ในเดือนก.ค.นั้นได้รับแรงหนุนจากตัวเลข GDP ที่อ่อนแอในเดือนมิ.ย. ซึ่งส่วนหนึ่งถูกกดดันจากวันทำงานที่ลดน้อยลง เนื่องในวันหยุดยาวในโอกาสครบรอบครองราชย์ครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2" นางยาเอล เซลฟิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเคพีเอ็มจี ยูเค กล่าว
"เรื่องที่น่าวิตกคือ ตัวเลข GDP ของเดือนก.ค.ยังคงต่ำกว่าระดับของเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวโดยรวมในช่วงสองเดือนแรกของฤดูร้อน"
ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากการพุ่งขึ้นของค่าพลังงานและอาหาร โดยเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน
อังกฤษกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์เงินเฟ้อที่รุนแรง โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษจะพุ่งทะลุ 18% ในเดือนม.ค. 2566 โดยได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น