-- เทศบาลกรุงปักกิ่งมีคำสั่งให้พนักงานและลูกจ้างทุกคนต้องแสดงผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบอย่างน้อยภายใน 48 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะกลับเข้าทำงานอีกครั้งหลังเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยจะมีการกำหนดวันหยุดสำหรับการตรวจหาเชื้อ หลังปักกิ่งต้องเผชิญกับการระบาดครั้งใหม่ในสถานศึกษา 3 แห่ง
-- กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุมัติการใช้วัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ (12 ก.ย.) ซึ่งจะปูทางให้วัคซีนของทั้ง 2 บริษัทเข้าสู่ตลาดเฮลท์แคร์ของญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
-- ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนส.ค. เนื่องจากยอดขายยังคงแข็งแกร่งท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูง ขณะที่แรงกดดันด้านต้นทุนส่งสัญญาณผ่อนคลายลง
-- กรมศุลกากรและสรรพสามิตของกัมพูชาเปิดเผยว่า ปริมาณการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาในช่วงเดือนม.ค.-ส.ค. ปี 2565 อยู่ที่ 3.74 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.5% เมื่อเทียบรายปี
-- นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางรัสเซียอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับ 7.5% ในการประชุมวันศุกร์นี้ (16 ก.ย.) เพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ในช่วงเวลาที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
-- สำนักประธานาธิบดีของอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า รัฐบาลเตรียมทบทวนกฎค่าแรงขั้นต่ำและกฎด้านแรงงานอื่น ๆ หลังจากสหภาพแรงงานต่าง ๆ จัดการชุมนุมทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้ของแรงงานยังคงเท่าเดิม
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค.ลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2517 ขณะที่อัตราค่าจ้างปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของอังกฤษยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว แม้ความต้องการแรงงานเริ่มบรรเทาลงในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม
-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (12 ก.ย.) ว่า ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในยูเครนจะพุ่งสูงสุดในเดือนต.ค. จนอาจทำให้โรงพยาบาลต้องรองรับผู้ป่วยในระดับที่ใกล้ถึงขีดจำกัด
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนส.ค. หลังจากที่ชะลอตัวลงในเดือนมิ.ย.และก.ค. โดยสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แรงกดดันด้านราคายังคงมีอยู่ เนื่องจากวิกฤตด้านอุปทานพลังงานยังดำเนินต่อไป