นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management ได้แสดงความกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ต่ำลงนั้น อาจเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด พร้อมกับกล่าวว่า เธอมีความกังวลมากขึ้นว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืด
ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 หลังสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% โดยขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนนี้ และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ดี นางวูดกล่าวว่า การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราค่าระวางเรือ รวมทั้งราคาทองคำที่เริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้บ่งชี้ว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น กำลังบรรเทาลง ขณะเดียวกันเธอกล่าวว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยก็จะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดน้อยลงด้วย
"ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้น หากเฟดยังคงเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ก็ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดกำลังมาผิดทาง" นางวูดกล่าว
นอกจากนี้ นางวูดกล่าวว่า Ark ประมาณการว่ามูลค่าตลาดของหุ้นในกลุ่มนวัตกรรมทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 8-10 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาหุ้น ARK Innovation fund ร่วงลง 5.5% ในวันอังคาร (13 ก.ย.) ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทที่ Ark ถือหุ้นอยู่ ซึ่งรวมถึงหุ้นคอยน์เบส โกลบอล และหุ้นเทเลดอค เฮลธ์ อิงค์ ร่วงลงกว่า 6%