นางซัตสึกิ คาตายามะ หัวหน้าคณะกรรมการวิจัยด้านการเงินของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่น เตือนว่า การที่ญี่ปุ่นพยายามเข้าแทรกแซงตลาดเพียงฝ่ายเดียวเพื่อยับยั้งไม่ให้สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงนั้น จะได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นางคาตายามะเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นพิเศษของญี่ปุ่นก็เป็นเรื่องยากเช่นเดียวกัน เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อเงินกู้ธนาคารของญี่ปุ่นที่มีมูลค่า 550 ล้านล้านเยน (3.84 ล้านล้านดอลลาร์)
ในทำนองเดียวกัน นายยูอิจิโร ทามากิ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อเศรษฐกิจ และเรียกร้องให้มีการสนับสนุนทางการคลังมากขึ้น
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและในประเทศอื่น ๆ บีบบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากจนสกุลเงินประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกอ่อนค่าลงหนัก โดยเฉพาะเงินเยน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและญี่ปุ่นนั้นแตกต่างกันอย่างมาก
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ารายเดือนสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. เนื่องจากนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพงเพิ่มขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อแรงกดดันด้านราคาจากต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ดำเนินการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Rate Check) ด้วยการสอบถามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดปริวรรตเงินตราเกี่ยวกับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่บ่งชี้ว่าจะมีการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยตรง