นายเจอร์รี ไรซ์ โฆษกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง และคาดว่าเศรษฐกิจของบางประเทศจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะลุกลามเป็นวงกว้างทั่วโลก
นายไรซ์กล่าวว่า มีข้อมูลจำนวนมากที่บ่งชี้ว่าทิศทางของเศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแรงลงในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวรวมถึงเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง, ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และการที่หลายประเทศหันมาใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2565 ลงสู่ระดับ 3.2% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2566 ลงเหลือ 2.9% ส่วนตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกครั้งใหม่นั้น จะมีการเปิดเผยในเดือนหน้า
นายไรซ์กล่าวว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น กำลังสร้างความเสียหายต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน ขณะที่การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้หลายประเทศเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากซับซ้อน
"เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนในหลาย ๆ ด้าน เราคาดว่า เศรษฐกิจในบางประเทศจะเผชิญกับภาวะถดถอยในปี 2566 แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะลุกลามไปทั่วโลกหรือไม่
"ในทางเทคนิคนั้น ต่อให้บางประเทศไม่ได้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ประชาชนจำนวนมากทั่วโลกก็รู้สึกได้ว่า พวกเขากำลังเผชิญกับการถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ซึ่งความอดอยากหิวโหยพุ่งขึ้นถึง 1 ใน 3 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากถึง 123 ล้านคน" นายไรซ์กล่าว