นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 14% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%
-- จับตาธนาคารกลางจีนเตรียมแถลงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ไว้ที่ระดับเดิม หลังจากประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.75% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2566 ลงเหลือ 1.1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.5% โดยระบุว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ
-- เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนของจีน ประกาศยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์แล้วในวันนี้ (19 ก.ย.) ซึ่งจะทำให้ประชาชน 21 ล้านคนของเมืองนี้สามารถเดินทางออกจากบ้านและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากที่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา
-- ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดการเงินต่าง ๆ ของอังกฤษ ประกาศปิดทำการซื้อขายในวันนี้ (19 ก.ย.) เนื่องในรัฐพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
บริษัทลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นอังกฤษออกแถลงการณ์ว่า "คณะผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์อังกฤษรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และตลาดหลักทรัพย์จะปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย.เพื่อร่วมไว้อาลัยในวันรัฐพิธีพระบรมศพของพระองค์"
-- จับตาผลกระทบของพายุไต้ฝุ่น "นันมาดอล" หลังจากพายุดังกล่าวพัดขึ้นฝั่งเกาะคิวชูของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกคำเตือนในระดับสูงสุด โดยให้ระวังการเผชิญกับคลื่นลมแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งคำเตือนระบุว่าบางพื้นที่ในคิวชู, เกาะชิโกกุ และภูมิภาคชูโงกุ ทางตะวันตกของประเทศ อาจอยู่ในบริเวณพายุฝนฟ้าคะนองในวันนี้
-- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐเตือนไม่ให้ใช้ยาชนิดเดียวมากเกินไปในการรักษาโรคฝีดาษลิง โดยระบุว่า หากไวรัสฝีดาษลิงมีการกลายพันธุ์แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้การใช้ยาดังกล่าวไม่มีประสิทธิผล
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้ปรับปรุงคำแนะนำสำหรับยาทีพอกซ์ (Tpoxx) ซึ่งได้แจกจ่ายให้กับผู้ป่วยหลายหมื่นรายที่ติดเชื้อฝีดาษลิง โดยเตือนว่า แม้มีการเปลี่ยนแปลงเพียงระดับโมเลกุลเดียวของเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ก็อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพในการต้านไวรัสของยาทีพอกซ์ เนื่องจากไวรัสมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายการป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงยาที่ใช้รักษา ดังนั้น FDA จึงเน้นย้ำว่า แพทย์ควรระมัดระวังในการสั่งจ่ายยาดังกล่าว
-- ข้อมูลจาก Standard Media Index (SMI) บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐใช้จ่ายด้านการโฆษณาในช่วง 7 เดือนของปีนี้ลดลง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากการขาดแคลนสต็อกรถยนต์ทำให้ยอดขายลดลง แม้ความต้องการรถยนต์ยังคงแข็งแกร่งก็ตาม
ข้อมูลดังกล่าวระบุว่า การใช้จ่ายด้านการโฆษณาดิจิทัลคิดเป็นสัดส่วน 53% ของงบใช้จ่ายด้านการโฆษณาทั้งหมด 4.80 พันล้านดอลลาร์ที่อุตสาหกรรมรถยนต์ใช้จ่ายในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้