นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากเฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งนำโดยนายแจน แฮทซิอุส คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย., ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 0.25% ในเดือนก.พ.ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้กรอบอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 4.5%-4.75% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4%-4.25%
การปรับเพิ่มคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นไม่นาน หลังจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ, ปรับเพิ่มแนวโน้มอัตราว่างงาน และเน้นย้ำว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่ก็มีความจำเป็นเพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
ด้านนายพาวเวลได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า เขาจะไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่า ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%
"คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เห็นพ้องที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และจะเดินหน้าปรับลดอัตราเงินเฟ้อต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว ดังนั้น แนวทางที่เราคิดในขณะนี้คือ การมุ่งมั่นให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งการทำให้ภารกิจดังกล่าวลุล่วงได้นั้น เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มที่ควรจะเป็น และตลาดแรงงานอาจจะชะลอตัวลง" นายพาวเวลกล่าว