ธนาคารโลกเปิดเผยในวันนี้ (27 ก.ย.) ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2565 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่จะขยายตัวเร็วขึ้นในปี 2566
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงการคาดการณ์ของธนาคารโลกว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศจีน มีแนวโน้มขยายตัว 3.2% ในปี 2565 โดยลดลงจากคาดการณ์เดิมในเดือนเม.ย.ที่ 5% และลดลงจากที่ขยายตัว 7.2% เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นจะขยายตัวเร็วขึ้นสู่ 4.6% ในปีหน้า
ปัจจัยหลักของการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 ครั้งนี้มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งถูกกดดันจากการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวดจนส่งผลกระทบต่อการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ยอดขายในประเทศ และการส่งออก
ขณะที่ เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 2.8% ในปีนี้ ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 5% ส่วนในปี 2564 เศรษฐกิจจีนขยายตัว 8.1% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวมากที่สุดในรอบ 10 ปี โดยจีนนั้นคิดเป็นสัดส่วน 86% ของผลผลิตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิก ซึ่งประกอบด้วย 23 ประเทศ
"ในขณะที่หลายประเทศกำลังเตรียมพร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจโลกเติบโตชะลอตัว ขณะเดียวกันก็ควรแก้ปัญหาการบิดเบือนนโยบายภายในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในระยะยาวด้วย" นางแมนูเอลา เฟอร์โร รองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกล่าว
รายงานระบุด้วยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อรับมือเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานขึ้น ถือเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เนื่องจากปัจจัยดังกล่าวทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออกและเงินอ่อนค่า