พายุไต้ฝุ่นโนรูได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เกษตรในฟิลิปปินส์ ซึ่งส่งผลให้ประเทศเผชิญความเสี่ยงด้านอุปทานอาหารและเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ พื้นที่เกษตรของฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.29 พันล้านเปโซ (21.9 ล้านดอลลาร์) ในวันอังคาร (27 ก.ย.) ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากความเสียหายที่ประมาณการไว้ที่ 160 ล้านเปโซเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ย.) โดยมีพื้นที่เกษตรกว่า 141,000 เฮกตาร์ที่ได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและชาวประมงราว 82,000 คน
กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผลผลิตข้าวคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของปริมาณพืชผลเกษตรที่ได้รับความเสียหาย 72,000 เมตริกตัน และเสริมว่าการประเมินความเสียหายยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นโนรูอาจส่งผลกระทบต่อข้าวยืนต้นในประเทศราว 76%
กระทรวงการคลังฟิลิปปินส์เปิดเผยในปีที่ผ่านมาว่า พายุไซโคลนพัดผ่านฟิลิปปินส์จำนวนเฉลี่ย 20 ลูกต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์จากภาวะอากาศที่อันตรายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ประสบกับปัญหาขาดแคลนอาหารตั้งแต่น้ำตาลไปจนถึงหอมหัวใหญ่ ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561
อาร์เซนิโอ บาลิซากัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ระบุในทวิตเตอร์ว่า ขณะที่ความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นโนรูดูเหมือนจะรุนแรงมาก แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศปีนี้ในระดับ 6.5% ถึง 7.5%