บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (29 ก.ย.) ว่า ยอดการผลิตรถโตโยต้าทั่วโลกปรับตัวขึ้น 44.3% แตะที่ 766,683 คันในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนส.ค. เนื่องจากผลกระทบเชิงลบจากภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และการล็อกดาวน์สกัดโควิด-19 ในเมืองเซี่ยงไฮ้เริ่มลดน้อยลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดการผลิตที่ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนเมื่อเทียบรายปีนี้มีขึ้นในขณะที่โตโยต้าพยายามเสริมความแข็งแกร่งในห่วงโซ่อุปทานของตน ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนชิ้นส่วนทั่วโลก ซึ่งบีบให้บรรดาผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกต้องลดการผลิต
โตโยตาเผยว่าได้เพิ่มการติดต่อสื่อสารกับซัพพลายเออร์เพื่อจัดหาเซมิคอนดักเตอร์จำเป็นและยกระดับกำลังการผลิตในอเมริกาเหนือและจีน
การผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 65.1% แตะที่ 570,645 คัน โดยยอดการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในจีน และเพิ่มขึ้น 24.6% ในอเมริกาเหนือ ขณะที่การผลิตภายในประเทศปรับตัวขึ้น 5.6% แตะที่ 196,038 คัน
ตัวเลขข้างต้นทำให้ผลผลิตทั่วโลกในเดือนส.ค.ทะลุระดับเป้าหมาย 700,000 คันที่โตโยต้าวางเอาไว้ในช่วงกลางเดือนก.ค. แม้จะต่ำกว่าระดับ 850,000 คันที่โตโยต้าคาดการณ์เอาไว้เมื่อต้นปีนี้ก็ตาม
ส่วนยอดขายรถยนต์โตโยต้าทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3.8% แตะที่ 777,047 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้น 8.9% ของยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนส.ค.ที่ 694,272 คัน
ด้านยอดขายรถยนต์โตโยต้าภายในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงรถยนต์ขนาดเล็ก ปรับตัวลดลง 25.8% แตะที่ 82,775 คัน โดยถูกกดดันจากผลกระทบของการลดการผลิตรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง