บริษัทเมตา แพลตฟอร์มสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก มีแผนที่จะระงับการจ้างงานและปรับโครงสร้างทีมงาน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคยังคงมีความไม่แน่นอน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มสเปิดเผยแผนการดังกล่าวในระหว่างการประชุมประจำสัปดาห์กับพนักงาน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดราคาหุ้นเมตา แพลตฟอร์มสปิดตลาดร่วงลง 3.7% ในวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.)
ในระหว่างการประชุมกับพนักงานซึ่งมีการเปิดเผยแผนการปรับลดการใช้จ่ายครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเฟซบุ๊กในปี 2547 นั้น นายซัคเคอร์เบิร์กกล่าวว่า บริษัทจะระงับการจ้างงานและปรับโครงสร้างทีมงานบางส่วนเพื่อลดการใช้จ่าย โดยจำนวนพนักงานในปี 2566 จะน้อยกว่าในปีนี้
"ที่ผ่านมานั้น ผมคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่สิ่งที่เราเห็นในขณะนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น"
"ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องการวางแผนอย่างระมัดระวัง โดยบริษัทจะลดงบประมาณในทีมงานส่วนใหญ่ แม้ว่าทีมเหล่านี้กำลังเติบโตขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ทีมงานต่าง ๆ จะต้องหาทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงาน ซึ่งอาจหมายความว่าบริษัทจะไม่รับพนักงานเพิ่มในแผนกที่พนักงานพ้นสภาพการทำงาน หรืออาจจะมีการโยกย้ายบุคลากรไปยังทีมงานอื่น ๆ หรืออาจจะจัดการกับพนักงานที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน" นายซัคเคอร์เบิร์กกล่าวในการประชุมพนักงาน
ทั้งนี้ เมตาไม่ใช่บริษัทที่ต้องพึ่งพารายได้จากโฆษณาเพียงรายเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัททวิตเตอร์ก็ประกาศระงับการจ้างงาน พร้อมทั้งขอให้พนักงานระมัดระวังการใช้จ่าย และลดต้นทุนในการทำตลาด ขณะที่กูเกิลซึ่งเป็นบริษัทลูกของอัลฟาเบทประกาศชะลอการจ้างงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และบริษัทสแนป อิงค์ ประกาศลดพนักงานในอัตราส่วน 20% ของจำนวนพนักงานในองค์กรเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา