สำนักข่าวพีเพิลส์ เดลีย์ของทางการจีนรายงานว่า จีนได้ทำการระบายเนื้อสุกรในคลังสำรองป้อนตลาดเพิ่มมากขึ้น หลังราคาพุ่งทะยานขึ้นเกือบหนึ่งในสาม ซึ่งจุดชนวนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ระบายเนื้อสุกรจากคลังสำรองมาแล้ว 3 ครั้งในเดือนนี้ พร้อมทั้งสั่งการให้บรรดาซัพพลายเออร์เชือดสุกรเพิ่มมากขึ้นเพื่อควบคุมราคา
อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อสุกรยังคงปรับตัวขึ้นแบบต่อเนื่อง และแนวโน้มที่อุปสงค์จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาว 1 สัปดาห์เนื่องในวันชาติจีนระหว่างวันที่ 1 - 7 ต.ค.นี้ ทำให้ทางการจีนตัดสินใจออกมาตรการรับมือ
"จีนจะระบายเนื้อสุกรจากคลังสำรองเข้าสู่ท้องตลาดเพิ่มมากขึ้นในวันนี้ เพื่อรักษาอุปทานและเสถียรภาพราคา" พีเพิลส์ เดลีย์รายงาน
"ราคาค้าปลีกเนื้อสันในสุกรเฉลี่ยรายสัปดาห์ในเมืองขนาดใหญ่และกลาง 36 แห่งเพิ่มขึ้นถึง 30% ในวันที่ 19 - 23 ก.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว" NDRC แถลงในวันอังคารที่ 27 ก.ย.
ราคาเนื้อสุกรในจีนพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. แม้รัฐบาลเข้าแทรกแซง โดยแตะ 31.17 หยวน (4.40 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่า เงินเฟ้อผู้บริโภคจีนแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 2.7% ในเดือนก.ค. ส่วนใหญ่เป็นเพราะราคาเนื้อสุกรที่พุ่งสูงขึ้น ก่อนชะลอตัวลงเล็กน้อยสู่ 2.5% ในเดือนส.ค. เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 บั่นทอนอุปสงค์โดยรวม
เนื้อสุกรเป็นอาหารที่มีการบริโภคอย่างแพร่หลายในจีน โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า ชาวจีนโดยเฉลี่ยรับประทานเนื้อสุกรมากกว่า 25 กิโลกรัมต่อปี