ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มผันผวนในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
-- ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 3% เช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมวันพุธนี้
ณ เวลา 07.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 3.26% แตะที่ระดับ 82.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
กลุ่มโอเปกพลัสจะจัดประชุมในวันพุธที่ 5 ต.ค.นี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงรัสเซีย มีแนวโน้มที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 500,000 บาร์เรลถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อพยุงตลาดน้ำมัน
-- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย สั่งการให้ตำรวจสืบสวนคดีเหยียบกันตายในสนามกีฬา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 180 คน ขณะเดียวกัน เขาได้สั่งให้สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) ระงับการแข่งขันฟุตบอลทั้งหมดในประเทศ จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสิ้น
โศกนาฏกรรมในสนามกีฬาเกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ (1 ต.ค.) ที่สนามกีฬากันจูรูฮัน (Kanjuruhan) ในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก หลังจากทีมอารีมา มาลัง (Arema Malang) พ่ายให้กับทีมเปอร์เซบายา สุราบายา (Persebaya Surabaya)
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า แฟนบอลทีมอารีมาที่พ่ายคาบ้านได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปในสนามฟุตบอล จนเกิดการเหยียบกันตายและมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุเสียชีวิต 2 นาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตา ซึ่งทำให้ฝูงชนเกิดความสับสนวุ่นวายและแย่งกันออกจากสนามกีฬาจนเหยียบกันตายบริเวณประตูทางออก
-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA ของอังกฤษลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) เนื่องจากวิตกว่า แผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ของนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรี จะทำให้หนี้สินของอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายควาซี ควาร์เต็ง รมว.คลังอังกฤษประกาศมาตรการปรับลดภาษีราว 4.5 หมื่นล้านปอนด์ (5.0 หมื่นล้านดอลลาร์) รวมถึงมาตรการให้เงินช่วยเหลือด้านค่าพลังงานชั่วคราวต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ซึ่งการประกาศมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อค่าเงินปอนด์และตลาดพันธบัตรอังกฤษ
-- ราคาหุ้นเครดิต สวิส ดิ่งลง 12.4% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ หลังจากมีรายงานว่าเครดิตสวิสพยายามระดมเงินสดจากนักลงทุนเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 7 ปี เพื่อนำไปใช้ในการยกเครื่องธุรกิจวาณิชธนกิจ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำไตรมาส 3/2565 ขณะที่เอสแอนด์พี โกลบอล มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.ของหลายประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และสหรัฐ