สถาบันวิจัยอีเลรา โกลบอลเปิดเผยในวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า ค่าเงินรูปีอาจลดลงแตะ 84-85 รูปีต่อดอลลาร์ภายในเดือนมี.ค. 2566 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงยอดขาดดุลการค้าระดับสูง และทุนสำรองระหว่างประเทศที่ลดลง โดยเงินรูปีแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 82.6825 ในวันนี้
นางการิมา คาปูร์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยอีเลรา โกลบอลระบุว่า "จนถึงขณะนี้ เงินรูปีได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากการคุมเข้มนโยบายการเงินทั่วโลก โดยการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความแตกต่างกันของอัตราดอกเบี้ย ล้วนส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินรูปี"
"ยอดขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นและราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้เพิ่มแรงกดดันระยะสั้น" นางคาปูร์กล่าว
นางคาปูร์คาดว่า เงินรูปีจะลดลงมาอยู่ที่ 83.50 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐภายในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะร่วงลงเพิ่มเติมแตะ 84-85 ภายในเดือนมี.ค.
ตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. และอัตราการว่างงานที่ลดลงแบบไม่คาดหมายในเดือนเดียวกันของสหรัฐนั้น อาจส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินรูปี
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นนับเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความท้าทายต่อค่าเงินรูปี โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นมากกว่า 11% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดการผลิตน้ำมันดิบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 แม้จะมีความวิตกกังวลว่ากรณีดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย "การเคลื่อนไหวเชิงลบของโอเปกพลัสอาจทำให้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่งที่กรอบ 90-100 ดอลลาร์/บาร์เรล" นางคาปูร์กล่าว
ขณะที่ ทุนสำรองระหว่างประเทศของอินเดียแตะ 5.3266 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2563