นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายวอลลี อาเดเยโม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ มีแผนการที่จะใช้เวทีการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในสัปดาห์นี้ เพื่อผลักดันการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย แม้ว่าการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นก็ตาม
นางเยลเลน และนายอาเดเยโม จะหารือเรื่องการกำหนดเพดานราคานำเข้าน้ำมันร่วมกับรัฐมนตรีคลังของประเทศทั่วโลกในการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์นี้ (10-16 ต.ค.) ที่กรุงวอชิงตัน
ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับเดือนพ.ย. แม้ว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนพยายามที่จะขัดขวางการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น เนื่องจากการตัดสินใจลดการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัสนั้น จะส่งผลกระทบต่อประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นทั่วโลก
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายอาเดเยโมมีกำหนดที่จะแถลงต่อประเทศสมาชิก IMF และธนาคารโลกในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับผลกระทบของการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อห่วงโซ่อุปทานด้านการทหารของรัสเซีย นอกจากนี้ นายอาเดเยโมจะหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสจากกว่า 20 ประเทศที่เข้าร่วมกันประชุมในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงแคนาดา อังกฤษ และสหภาพยุโรป เกี่ยวกับแนวทางการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในระดับที่รุนแรงขึ้น
ส่วนนางเยลเลนมีแผนที่จะเรียกร้องให้ที่ประชุม IMF และธนาคารโลก ร่วมมือกันใช้มาตรการขัดขวางไม่ให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและยุทโธปกรณ์ทางทหารซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำสงครามในยูเครน