นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (11 ต.ค.) ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังดำเนินไปได้ดี ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
นางเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังดำเนินไปได้อย่างดีมาก ในขณะที่ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น, การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำลง
"จากมุมมองของสหรัฐ ดิฉันคิดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังดำเนินไปได้อย่างดีมาก" นางเยลเลนให้สัมภาษณ์กับนางซาราห์ ไอเซน นักข่าวของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันอังคาร โดยนางเยลเลนได้เข้าร่วมประชุมกับรัฐมนตรีคลังของประเทศทั่วโลกในการประชุมประจำปีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกในสัปดาห์นี้ที่กรุงวอชิงตัน
นางเยลเลนคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวหลังจากฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่รายงานการจ้างงานล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก โดยสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2512
อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคได้ถูกกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี โดยการสำรวจความคาดหวังของผู้บริโภคจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคคาดว่า อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบรายปีจะอยู่ที่ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี และลดลงจาก 5.75% ในการสำรวจเมื่อเดือนส.ค.
ทั้งนี้ เงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดที่ 6.8% ในเดือนมิ.ย. และลดระดับลงนับตั้งแต่นั้น เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบต่อเนื่องสู่ระดับ 3% และตลาดคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดต่ำลงสู่เป้าหมายระยะยาวที่ระดับ 2%
นางเยลเลนยอมรับว่า อัตราเงินเฟ้อนั้นสูงเกินไปและการลดเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่นางเยลเลนระบุว่า มีวิธีที่จะลดระดับเงินเฟ้อ ในขณะที่ยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน