นายคริสโตเฟอร์ เบิร์ก ทนายความของกลุ่มนักลงทุนที่ยื่นฟ้องเครดิตสวิส กรุ๊ป เอจีกล่าวในการแถลงเปิดคดีต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐเขตแมนฮัตตันในวันอังคาร (11 ต.ค.) ว่า เครดิตสวิสเป็นส่วนหนึ่งของ "เครือข่ายการสมคบคิด" ที่มุ่งเป้าไปที่การปั่นตลาดปริวรรตเงินตรา โดยการสนทนาระหว่างเทรดเดอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เครดิตสวิสสมรู้ร่วมคิดในการกำหนดราคาในตลาดปริวรรตเงินตราระหว่างปี 2550-2556
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครดิตสวิสเป็นธนาคารจำเลยรายสุดท้ายที่ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีที่เปิดฉากขึ้นในปี 2556 หลังธนาคารอีก 15 แห่งสะสางคดีเสร็จเรียบร้อยแล้วภายใต้การไกล่เกลี่ยที่คิดเป็นเงินมูลค่า 2.31 พันล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนกล่าวหาว่า เทรดเดอร์ของเครดิตสวิสได้ทำการแบ่งปันข้อมูลการกำหนดราคาที่ยังไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณชนให้กับเทรดเดอร์ของธนาคารรายอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลในห้องสนทนาผ่านออนไลน์ที่มีชื่อว่า "เยน คาร์เทล" (Yen Cartel)
"จงเชื่อในการสนทนาพวกนั้น แล้วคุณจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น" นายเบิร์กกล่าว
การพิจารณาคดีดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ โดยผู้พิพากษาจะวินิจฉัยว่ามีการสมรู้ร่วมคิดในการปั่นตลาดปริวรรตเงินตราหรือไม่ และเครดิตสวิสเกี่ยวพันกับแผนการดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
ขณะที่ นายเอ็ดเวิร์ด มอสส์ ทนายความของเครดิตสวิสระบุในแถลงการณ์เปิดคดีว่า การสนทนาระหว่างเทรดเดอร์กลุ่มเล็ก ๆ ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าเครดิตสวิสนั้นเกี่ยวข้องกับการสมรู้ร่วมคิดในการปั่นตลาดเงินขนาดใหญ่ที่สุดของโลก
"มีคนในอุตสาหกรรมนี้ที่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่พวกเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่โจทก์กล่าวอ้าง" นายมอสส์กล่าว
ปัจจุบัน เครดิตสวิสกำลังเผชิญมรสุมด้านความเชื่อมั่น ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท