ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในเอเชียสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดุลการค้าเดือนก.ย.ของจีนและอินโดนีเซีย, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 และยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของจีน และอัตราว่างงานเดือนก.ย.ของออสเตรเลีย
-- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 โดยถูกผลักดันจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น และอาจสกัดกั้นโอกาสที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.0% และชะลอลงจากการขยายตัว 2.3% ในเดือนส.ค.
-- ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดช่วงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแบงก์ ออฟ อเมริกา และเทสลา นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB),
ณ เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 147 จุด หรือ +0.49% แตะที่ 29,855 จุด
-- จับตาความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอังกฤษในวันนี้ หลังนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศยกเลิกแผนการปรับลดภาษีซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นางทรัสส์ได้สั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ และแต่งตั้งนายเจเรมี ฮันท์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศขึ้นดำรงตำแหน่งแทนนายควาร์เต็ง นอกจากนี้ นางทรัสส์ระบุว่า ภาษีนิติบุคคลจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 25% หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายควาร์เต็งเปิดเผยว่า ภาษีดังกล่าวจะถูกตรึงไว้ที่ระดับ 19%
-- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกให้ความสำคัญกับการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในพิธีเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 เมื่อวานนี้ โดยปธน.สีเน้นย้ำว่าจีนมุ่งมั่นที่จะรวมประเทศกับไต้หวัน และการแก้ปัญหาไต้หวันเป็นเรื่องของชาวจีน นอกจากนี้ จีนไม่ปฏิเสธการใช้กำลังทหารเพื่อนำไต้หวันกลับมา
ทั้งนี้ ปธน.สียังเตือนไม่ให้สหรัฐหรือประเทศอื่น ๆ เข้าแทรกแซงกิจการไต้หวัน ท่ามกลางความตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นหลังนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันในช่วงต้นเดือนส.ค.
-- ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 5.1% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย. ส่วนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.9% โดยสูงกว่าระดับ 2.7% ที่มีการสำรวจในเดือนก.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%
-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์ (14 ต.ค.) ว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่ในยูเครน พร้อมทั้งระบุว่า รัสเซียไม่ได้จ้องที่จะทำลายยูเครน
"เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำลายยูเครน ไม่ใช่แน่นอน ไม่มีความจำเป็นสำหรับการโจมตีครั้งใหญ่ในขณะนี้ เนื่องจากมีการบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ส่วนใหญ่แล้ว" ปธน.ปูตินกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐปรับตัวขึ้นในการซื้อขายระหว่างวันในวันศุกร์ ขานรับความเห็นดังกล่าวของปธน.ปูติน เนื่องจากบรรดาเทรดเดอร์ตีความว่า ความเห็นดังกล่าวเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
-- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมที่จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนมากเกินไป หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 32 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
นายมาซาโตะ คันดะ รมช.คลังของญี่ปุ่นฝายกิจการต่างประเทศแสดงความเห็นดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมประจำปีของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
-- บริษัทเน็ตฟลิกซ์ อิงค์ประกาศว่าจะเริ่มให้บริการสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาในราคาราว 7 ดอลลาร์ต่อเดือนในเดือนพ.ย.นี้ โดยหวังที่จะดึงดูดสมาชิกรายใหม่ ๆ หลังจากบริษัทสูญเสียลูกค้าไปในช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับค่าบริการแพ็กเกจมาตรฐานพร้อมโฆษณา (Basic with Ads) จะอยู่ที่ระดับ 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าราคาต่ำสุดของแพ็กเกจแบบไม่มีโฆษณาอยู่ราว 3 ดอลลาร์ โดยแพ็กเกจใหม่นี้จะเริ่มให้บริการใน 12 ประเทศรวมถึงสหรัฐ, บราซิล, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า สมาชิกที่สมัครแพ็กเกจดังกล่าวจะเห็นโฆษณาราว 4-5 นาทีต่อชั่วโมง แต่ภาพยนตร์ที่เพิ่งออกฉายใหม่นั้นจะมีการจำกัดโฆษณาเพื่อรักษาอรรถรสในการชมภาพยนตร์