นายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐเวอร์มอนต์ แสดงความเห็นว่า นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ช่วยบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังเป็นการซ้ำเติมชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน
"ผมคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อด้วยวิธีการปรับลดค่าจ้างและหนุนอัตราว่างงานให้สูงขึ้น ปัญหาเงินเฟ้อเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ แต่การที่ครอบครัวของคนทำงานกำลังดิ้นรนอย่างยากลำบากในขณะที่คนระดับผู้บริหารยังคงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ผมไม่คิดว่าเฟดจะคำนึงถึงประชาชนในกลุ่มคนทำงานเท่าใดนัก" นายแซนเดอร์สให้สัมภาษณ์ในรายการ "Meet the Press" ของสำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเนื่อง 3 ครั้งในการประชุมที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในช่วง 3.00% - 3.25% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแตะ 4.5% ภายในสิ้นปีนี้ และมีโอกาสจะไปถึง 5.5% ในปีหน้า
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 6.5% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง