ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ 12 เขต หรือ Beige Book ในวันพุธ (19 ต.ค.) โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัวเล็กน้อยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้กิจกรรมในบางเขตทรงตัว และบางเขตชะลอตัวลง นอกจากนี้รายงานยังสะท้อนให้เห็นว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยรายงาน Beige Book ระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ลดลงในระดับหนึ่ง และคาดว่าจะลดลงอีก ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งอาจจะเริ่มส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ โดยในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
"บริษัทเอกชนบางแห่งระบุว่าอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทอีกส่วนหนึ่งกล่าวว่า การผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปให้กับผู้บริโภคนั้นเป็นเรื่องยากมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคลดการซื้อ ส่วนแนวโน้มในวันข้างหน้านั้น บริษัทส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ราคาโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้นปานกลาง" รายงานระบุ
นอกจากนี้ รายงาน Beige Book ยังระบุว่า บริษัทเอกชนมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแรงลง
ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่เฟดเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตเศรษฐกิจของสหรัฐ โดย Beige Book เป็นการรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง