กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้จัดการประชุมฉุกเฉินหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เชิญบรรดาผู้บริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ เพื่อร่วมกันประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้บริหารบริษัทผลิตชิปที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมฉุกเฉินในครั้งนี้ รวมถึงผู้บริหารจากบริษัทหยางจื่อ เมมโมรี เทคโนโลยีส์ และบริษัทดาวนิ่ง อินฟอร์เมชัน อินดัสทรี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยการประชุมแบบปิดดังกล่าวจัดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน เพื่อหวังจะสกัดกั้นความคืบหน้าด้านเทคโนโลยีของจีน
ผู้บริหารหลายคนที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้แสดงความกังวลว่า การที่สหรัฐออกมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตชิปของจีน รวมทั้งจะขัดขวางความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน เพื่อจำกัดขีดความสามารถของจีนในการเข้าถึงชิประดับไฮเอนด์ซึ่งจีนอาจใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ล้ำสมัย
มาตรการใหม่นี้พุ่งเป้าไปที่การส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่มีจุดประสงค์เพื่อการใช้งานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยรัฐบาลสหรัฐวิตกว่า จีนกำลังใช้ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัยเพื่อปรับปรุงการคำนวณต่าง ๆ ในการออกแบบอาวุธ, การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์, ระบบไฮเปอร์โซนิก และระบบขีปนาวุธอื่น ๆ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์ผลการสู้รบ
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นบริษัทชิปในตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงในวันศุกร์ที่ 7 ต.ค. และยังได้ฉุดราคาหุ้นบริษัทผลิตชิปในตลาดเอเชียร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ที่ 11 ต.ค. ซึ่งรวมถึงหุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ เมนูแฟคเจอริง (TSMC) , หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์, หุ้นเอสเค ไฮนิกส์ และหุ้นโตเกียว อิเล็กตรอน