ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (20 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐและการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป ซึ่งอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย
-- นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมเมื่อคืนวานนี้ ส่งผลให้นางทรัสส์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยอัตโนมัติ
การประกาศลาออกดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางมรสุมทางการเมืองในอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ได้กล่าวขอโทษสำหรับความผิดพลาดในการประกาศมาตรการปรับลดภาษีวงเงิน 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
-- นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาแทบไม่สามารถสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ดังนั้นเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยเขามองว่าเฟดควรจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าระดับ 4% ภายในปลายปีนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งและการแสดงความเห็นของนายฮาร์เกอร์ได้สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนพ.ย.และธ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% จำนวน 5 ครั้งติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.50-4.75% ในสิ้นปีนี้
-- จับตาความเคลื่อนไหวในจีนวันอาทิตย์นี้ โดยคาดว่าจะได้เห็นผู้นำประเทศชุดใหม่ของจีน รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งจะกุมอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 3 และถือเป็นการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมที่บัญญัติให้ประธานาธิบดีแต่ละคนสามารถรั้งตำแหน่งผู้นำแดนมังกรได้เพียง 2 สมัย
-- เดอะวอชิงตันโพสต์รายงานว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา อิงค์ ซึ่งเพิ่งกลับมายื่นข้อเสนอซื้อกิจการของทวิตเตอร์อีกครั้ง มีแผนลดจำนวนพนักงานของทวิตเตอร์ลงเกือบ 75% ในเวลาไม่กี่เดือน ให้เหลือเพียงประมาณ 2,000 คน
-- ธนาคารกลางตุรกีสร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในการประชุมเมื่อคืนวานนี้ แม้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80%
ทั้งนี้ ธนาคารกลางตุรกีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% สู่ระดับ 10.50% แม้อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งแตะ 83% ในเดือนก.ย. ท่ามกลางการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร
-- ธนาคารกลางยูเครนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 25% ในการประชุมเมื่อคืนวานนี้ และส่งสัญญาณว่าทางธนาคารจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนถึงไตรมาส 2 ของปี 2567 เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นหลังจากรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 631,722,073 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,577,917 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 214,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 230,000 ราย
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ได้แก่ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., อังกฤษเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากสถาบัน Gfk และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และญี่ปุ่นเปิดอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.