สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังสำรวจความเป็นไปได้ที่จะออกมาตรการควบคุมการส่งออกครั้งใหม่เพื่อขัดขวางจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีอีเมอร์จิ้ง คอมพิวติง (Emerging Computing Technologies) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังมากที่สุด
แหล่งข่าวระบุว่า แผนการดังกล่าวซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นนั้น จะมุ่งเน้นไปที่ควอนตัม คอมพิวติง (Quantum Computing) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ทดสอบทักษะ รวมทั้งซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ก็จะเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อคณะบริหารของปธน.ไบเดนออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน โดยพุ่งเป้าไปที่การส่งออกชิปคอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่มีจุดประสงค์เพื่อการใช้งานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยรัฐบาลสหรัฐวิตกว่า จีนกำลังใช้ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัยเพื่อปรับปรุงการคำนวณต่าง ๆ ในการออกแบบอาวุธ, การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์, ระบบไฮเปอร์โซนิก และระบบขีปนาวุธอื่น ๆ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์ผลการสู้รบ
หุ้นกลุ่มเทคโนโยของจีนร่วงลงในวันนี้ โดยหุ้นนอรา เทคโนโลยี กรุ๊ป และหุ้นเอซีเอ็ม รีเสิร์ช เซี่ยงไฮ้ ร่วงลง 6.1% และ 8.7% ตามลำดับ ส่วนหุ้นไพโอเทค ร่วงลงรุนแรงถึง 13%
อย่างไรก็ดี สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคงในสังกัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกแบบและบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกและเป็นผู้ประกาศควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.นั้น ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
รายงานระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้จัดการประชุมฉุกเฉินหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้เชิญบรรดาผู้บริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ เพื่อร่วมกันประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ ประกาศใช้มาตรการควบคุมการส่งออกชิปให้กับจีน นอกจากนี้ ทางกระทรวงยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปซึ่งมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ