อัตราเงินเฟ้อที่ 70% ของศรีลังกาใกล้แตะระดับสูงสุดแล้ว เนื่องจากปัญหาขาดแคลนบรรเทาลง และใกล้จะได้รับเงินช่วยเหลือเข้าไปทุกขณะ แต่กรณีดังกล่าวยังไม่ทำให้นายนันดาลัล วีระสิงห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา (CBSL) นิ่งนอนใจ
"เรากำลังจะได้เห็นอัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุด แต่ยังมีงานต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย" นายวีระสิงห์ระบุในการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ณ กรุงโคลัมโบ
นายวีระสิงห์ระบุว่า การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่ด้านการเงินจะยังอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและการคาดการณ์ถึงอนาคต โดย CBSL ได้พักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวหลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 9.5% ในปีนี้ ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันแตะที่ 15.5% เนื่องจากศรีลังกามีอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นรวดเร็วที่สุดในเอเชีย
"เงินเฟ้อจะพลิกกลับ โดยหากลดลงในเดือนต.ค.ตามที่เราคาดการณ์เอาไว้ แนวโน้มดังกล่าวจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง" นายวีระสิงห์กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจศรีลังกามูลค่า 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีสินค้าพื้นฐานพร้อมใช้งานมากขึ้น เช่น อาหารและเชื้อเพลิง ในขณะที่ทางการยังคงดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำข้อตกลงกับบรรดาเจ้าหนี้คือกุญแจสำคัญในการรับเงินช่วยเหลือมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และปลดล็อกเงินทุนเพิ่มเติม