เงินเยนฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 146 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ โดยเงินเยนแข็งค่าอย่างต่อเนื่องหลังจากทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการทุ่มซื้อเงินเยนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ต.ค.) ซึ่งเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเงินเยนซึ่งร่วงลงแตะ 150.30 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี
ทั้งนี้ แม้ว่านายมาซาโตะ คันดะ รมช.คลังฝ่ายกิจการต่างประเทศของญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นว่ากระทรวงการคลังได้เข้าแทรกแซงตลาดหรือไม่ แต่สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อพยุงค่าเงินเยน
ในช่วงที่ผ่านมานั้น เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและสหรัฐจะปรับตัวกว้างขึ้นอีก เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินแม้ตัวเลขเงินเฟ้อในประเทศพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง สวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานทั่วประเทศ ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด พุ่งขึ้น 3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 31 ปี เนื่อง โดยข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ BOJ เผชิญกับความยากลำบากในการเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญของญี่ปุ่น ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOJ ที่ระดับ 2% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้