ต่างชาติทุบตลาดหุ้นจีนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจีนเปิดตัวผู้นำโปลิตบูโร

บรรดานักลงทุนต่างชาติแห่เทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิวส์จีนไม่ได้ออกนโยบายใด ๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งวิตกว่า รัฐบาลจีนจะเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่อไป

ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ในวันจันทร์ (24 ต.ค.) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นในตลาดหุ้นจีนสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.79 หมื่นล้านหยวน (2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านทางโครงการ Stock Connect ซึ่งเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกง ส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกสุทธิ และหากสถานการณ์ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี ก็จะทำให้ตลาดหุ้นจีนลดลงเป็นรายปีครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการ Stock Connect ในปี 2557

ทั้งนี้ นักลงทุนเทขายหุ้นในตลาดหุ้นจีนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ หลังจากจีนเปิดเผยรายชื่อทีมผู้นำชุดใหม่ในคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกจากนี้ การแต่งตั้งคนสนิททั้งหมดของปธน.สีเข้ามาเป็นผู้นำในโปลิตบูโร ยังทำให้นักลงทุนกังวลว่า ปธน.สีจะใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในการควบคุมเศรษฐกิจและภาคธุรกิจของจีน

นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องดังกล่าวยังส่งผลให้ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงกว่า 1,000 จุดเมื่อวานนี้ด้วย

นายมาร์วิน เฉิน นักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์กล่าวว่า "ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อหุ้นจีนนั้น อยู่ในระดับต่ำมาก หลังจากที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เราคาดว่านักลงทุนจะจับตาการประชุมว่าด้วยกรอบการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อดูว่าทีมผู้นำชุดใหม่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้หรือไม่"

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง 61.37 จุด หรือ -2.02% ในวันจันทร์ (24 ต.ค.) และในวันนี้ ดัชนีเปิดลบ 8.40 จุด หรือ -0.28%

ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลง 1,030.43 จุด หรือ -6.36% ในวันจันทร์ ส่วนในวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งขยับขึ้น 61.41 จุด หรือ +0.40% โดยปรับตัวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดในวันจันทร์