เอชเอสบีซี (HSBC) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรในไตรมาส 3/2565 ลดลง 42% เนื่องจากธนาคารต้องเพิ่มการกันสำรองหนี้เสียและการด้อยค่าของทรัพย์สินต่าง ๆ อย่างไรก็ดี รายได้สุทธิจากอัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้น โดยได้แรงหนุนดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีมีกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 3 อยู่ที่ 3.15 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากไตรมาส 3 ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอชเอสบีซีคาดการณ์ไว้ที่ 2.45 พันล้านดอลลาร์
เอชเอสบีซีกำลังเผชิญแรงกดดันจากการที่บริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจีนที่ถือหุ้นรายใหญ่สุดในธนาคาร เริ่มสำรวจทางเลือกต่าง ๆ ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการแยกกิจการ และนำธุรกิจหลักในเอเชียเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เอชเอสบีซีได้แจ้งให้นักลงทุนทราบถึงความจำเป็นในการเพิ่มค่าใช้จ่าย โดยระบุว่า ธนาคารจำเป็นต้องเพิ่มเงินทุนกันสำรองให้สูงกว่า 14% ก่อนที่จะเริ่มการซื้อหุ้นคืนและจ่ายเงินปันผล โดยธนาคารจะเริ่มดำเนินการดังกล่าวภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าด้วยการเพิ่มรายได้และต้นทุนการบริหารจัดการ