นางคริสตีนา ฟราสโก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ระบุในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส แห่งฟิลิปปินส์จะออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อผ่อนปรนมาตรการสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคารในฟิลิปปินส์ โดยจะอนุญาตให้ประชาชนสวมใส่ตามความสมัครใจแทนการบังคับ และผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงถ้อยแถลงของนางฟราสโกว่า ในขณะที่ฟิลิปปินส์จะยังคงบังคับให้ประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในขนส่งมวลชนและสถานพยาบาลต่อไป แต่จะมีเพียงบุคคลที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงกลุ่มผู้มีปัญหาสุขภาพและคนสูงอายุเท่านั้นที่ได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยในอาคาร
นางฟราสโกกล่าวด้วยว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฟิลิปปินส์ เพียงแต่ต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิด-19 แบบแอนติเจนเป็นลบในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง หรือผลตรวจหาเชื้อเมื่อเดินทางเข้าประเทศแล้ว
นางฟราสโกระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้มุ่งหวังให้ฟิลิปปินส์มีความสอดคล้องทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผ่อนปรนมาตรการจำกัดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องการ "เปิดประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุน" เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 12,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค. โดยมีผู้ป่วยวิกฤต 650 คนกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล