จีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสวนทางกับที่นักลงทุนคาดหวังว่า จีนจะผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ หลังจากที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงมติให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครองอำนาจต่อไปเป็นสมัยที่ 3
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่นี้ครอบคลุมตั้งแต่เมืองอู่ฮั่นไปจนถึงเส้นทางอุตสาหกรรมของจีนบนชายฝั่งตะวันออก ขณะที่ได้สั่งระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและการรับประทานอาหารในร้านในเมืองกวางโจวซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญด้านการผลิตทางตอนใต้ของจีน
นอกจากนี้ การชัตดาวน์ในหลายพื้นที่ของกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ก็ยังคงดำเนินต่อไป ขณะเดียวกันยังมีการปิดกั้นที่พักอาศัยและสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยหากมีการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ จีนยังคงเดินหน้าใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 1,321 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยธนาคารโนมูระของญี่ปุ่นพบว่า จำนวนชาวจีนที่อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในขณะนี้อยู่ที่ราว 232 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 225 ล้านคน และมีเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์ทั้งสิ้น 31 เมือง ณ วันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยประชาชนที่ถูกล็อกดาวน์ใน 31 เมืองดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 6 ของประชาชนทั้งหมดในประเทศจีน และคิดเป็นสัดส่วน 24.5% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 22.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว