พนักงานหลายร้อยคนของบริษัทแอปเปิลในประเทศออสเตรเลียวางแผนผละงานประท้วงอีกรอบ หลังพนักงาน 2 ใน 3 ปฏิเสธข้อตกลงเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้างและสวัสดิการอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นความขัดแย้งระลอกล่าสุด หลังพนักงานตามร้านแอปเปิลทั่วประเทศก่อเหตุผละงานประท้วงหลายสัปดาห์
ผลการประชุมที่เผยแพร่ในวันนี้ (31 ต.ค.) แสดงให้เห็นว่า 68% ของพนักงานแอปเปิลในออสเตรเลียปฏิเสธข้อตกลงเรื่องการขึ้นค่าจ้างที่เสนอโดยฝ่ายบริหาร โดย 87% ของพนักงานเกือบ 4,000 คนของแอปเปิลในออสเตรเลียเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงดังกล่าว ด้านแอปเปิลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อผลการประชุมครั้งนี้
สมาชิกสหภาพแรงงานค้าปลีกและอาหารจานด่วน (RAFFWU) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สหภาพแรงงานที่เข้าร่วมการเจรจาเรื่องการขึ้นค่าจ้างและเป็นตัวแทนของพนักงานแอปเปิลประมาณ 200 คน จะจัดการประชุมในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาออสเตรเลีย โดยตัวแทนสหภาพแรงงานเปิดเผยว่า จะมีการหารือเรื่องเดินหน้าผละงานประท้วงอย่างแน่นอน
"พนักงานเรียกร้องข้อตกลงที่เป็นธรรมกันมา 3 เดือนแล้ว โดยสมาชิกของเราค่อนข้างจริงจังเรื่องการผละงานประท้วง" นายจอช คัลลิแนน เลขานุการ RAFFWU กล่าวต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์
"เราคิดว่าสมาชิกจะสนับสนุนการผละงานประท้วงต่อไป"
พนักงานแอปเปิลที่เป็นสมาชิกของ RAFFWU ได้เข้าร่วมการผละงานประท้วง 1 ชั่วโมงในวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. หลังการผละงานประท้วงตลอดทั้งวันในช่วงต้นเดือนต.ค.
อนึ่ง การเจรจาดังกล่าวเปิดฉากขึ้นตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่แอปเปิลเสนอขึ้นค่าจ้างและสวัสดิการ แต่สหภาพแรงงานต่าง ๆ มองว่า การขึ้นค่าจ้างดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเงินเฟ้อจนทำให้ค่าจ้างที่แท้จริงลดน้อยลง อีกทั้งยังอ่อนด้อยเรื่องสมดุลการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว