บรรดานักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า จีนอาจจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หลังจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังระบุว่า จีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19
นายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า "นายหวัง หูหนิง หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) กำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566"
ข้อความดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร (1 พ.ย.) และยังช่วยหนุนราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ด้วย แม้ว่านายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมากล่าวว่า เขายังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ตลาดยังคงเชื่อว่า ข่าวดังกล่าวมีมูลความจริง และคาดหวังว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจและอุปสงค์ฟื้นตัว และจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า การชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ IMF ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปี 2565 และ 2566 ลงสู่ระดับ 4.0% และ 4.3% ตามลำดับ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% และ 5.1% ตามลำดับ
ทางการจีนได้ทำการล็อกดาวน์พื้นที่หลายแห่งอย่างเงียบ ๆ นับตั้งแต่มีการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากพบว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด โดยการล็อกดาวน์ครอบคลุมถึงเมืองสำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้ เจิ้งโจว และกวางโจว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและการใช้ชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากพบว่าต้นทุนทางเศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้น และประชาชนรวมทั้งนักลงทุนต่างกันวิตกกังวลมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาปรับลดระยะเวลาการกักตัวในโรงแรมสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าจีนลงเหลือ 2 วัน และจากนั้นให้กักตัวต่อที่บ้าน 5 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวในโรงแรม 7 วันและให้กักตัวต่อที่บ้าน 3 วัน