ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 500 จุดในวันพุธ (2 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,147.76 จุด ร่วงลง 505.44 จุด หรือ -1.55%
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2551
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ในปีนี้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.
-- ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 4.25% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ภายในระยะเวลา 8 เดือน
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (2 พ.ย.) โดยกล่าวว่า "ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และข้อมูลที่เฟดได้รับนับตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้วยังบ่งชี้ว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และผมมองว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
"เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในช่วงเวลาที่เฟดปรับขึ้นอัตราเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) นั้น มีน้อยลง เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อชะลอตัวอย่างเชื่องช้า" นายพาวเวลกล่าว
-- ผลการสำรวจของ Reuters/Ipsos พบว่า คะแนนความนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กระเตื้องขึ้นในช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า ชาวอเมริกัน 40% มีความพึงพอใจต่อการทำงานของปธน.ไบเดน โดยสูงกว่าระดับ 39% ที่มีการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
-- นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า นายกูเตอร์เรสแสดงความยินดีต่อการที่รัสเซียประกาศให้ความร่วมมือในการส่งออกธัญพืชของยูเครนอีกครั้ง หลังถอนตัวก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นายดูจาร์ริคกล่าวว่า นายกูเตอร์เรสยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการขยายเวลาของข้อตกลงการส่งออกธัญพืชยูเครน ก่อนที่ข้อตกลงดังกล่าวจะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ย. รวมทั้งสนับสนุนให้มีการส่งออกอาหารและปุ๋ยจากรัสเซีย
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 0.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวลง
จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น 0.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ดิ่งลง 85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย โดยมีการหารือเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ที่จะมีขึ้นในเดือนนี้ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า ปธน.ปูตินได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวหรือไม่
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง จากระดับ 192,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 247,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 8,000 ตำแหน่ง
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค., ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., จีนจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.จากไฉซิน, อังกฤษมีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอส และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.