คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 3,200 รายในวันพุธที่ 2 พ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 531 ราย และไม่แสดงอาการ 2,669 ราย
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของจีนพุ่งสูงเกิน 3,000 รายนับตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.
NHC ระบุว่า จีนกำลังพยายามควบคุมโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นครั้งแรกของ NHC นับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 20 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเมืองสำคัญหลายแห่งของจีน
นอกจากนี้ NHC ยังคงยืนยันว่า จีนควรจะยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) ซึ่งสอดคล้องกับที่ทางการจีนได้ออกมาย้ำหลายครั้งว่า จีนจะยังคงเดินหน้านโยบายดังกล่าวต่อไปแม้การล็อกดาวน์และการใช้มาตรการคุมเข้มต่าง ๆ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็ตาม
มาร์กิตและไฉซินเปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมในภาคบริการของจีนยังคงหดตัวลงในเดือนต.ค. เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและการอุปโภคบริโภค ซึ่งคาดว่าจะบดบังแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนต.ค.ของจีน ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีนี้ จากระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว