สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า มอร์แกน สแตนลีย์ กำลังพิจารณาปรับลดการจ้างงานด้านวาณิชธนกิจในเอเชียจำนวนราว 50 ตำแหน่ง หลังจากการทำข้อตกลงทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลงอย่างมากในปีนี้
แหล่งข่าวระบุว่า มอร์แกน สแตนลีย์ วางแผนที่จะลดจำนวนบุคลากรที่มีบทบาทด้านการธนาคารที่มุ่งเน้นธุรกิจในจีนลงอย่างมีนัยสำคัญ และบางตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน โดยการปรับลดบุคลากรเหล่านี้อาจจะเริ่มต้นในเดือนนี้
จำนวนบุคลากรที่มอร์แกน สแตนลีย์วางแผนจะปรับลดในครั้งนี้ ถือเป็นจำนวนสูงสุดในบรรดาบริษัทย่านวอลล์สตรีทที่ปรับลดพนักงานในเอเชีย โดยมากกว่าจำนวนพนักงานที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับลด 30 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
นายเจมส์ กอร์แมน ซีอีโอของมอร์แกน สแตนลีย์ส่งสัญญาณเมื่อเดือนที่แล้วว่า ทางธนาคารอาจจะปรับลดพนักงานเมื่อผู้บริหารระดับอาวุโสทำการประเมินจำนวนพนักงาน
อย่างไรก็ดี โฆษกของมอร์แกน สแตนลีย์ในฮ่องกง ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ ต่อรายงานข่าวดังกล่าว
มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลกระทบจากรายได้ที่อ่อนแอในธุรกิจวาณิชธนกิจ โดยธนาคารมีกำไรที่ระดับ 2.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.39 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าระดับ 3.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.85 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.53 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์