อีลอน มัสก์ เจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์ได้ออกมาปกป้องความพยายามในการปรับลดต้นทุนด้วยการปลดพนักงานทั่วบริษัทในวันศุกร์ (4 พ.ย.) โดยอ้างว่าทวิตเตอร์กำลังสูญเสียเงินมากกว่า 4 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และระบุว่าพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยจำนวนมาก
นายมัสก์ทวีตว่า "เกี่ยวกับการปรับลดพนักงานของทวิตเตอร์ น่าเสียดายที่ไม่มีทางเลือก เมื่อบริษัทกำลังสูญเสียเงินกว่า 4 ล้านดอลลาร์ต่อวัน และทุกคนที่ถูกปลดจะได้รับเงินชดเชย 3 เดือนซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 50%"
ทั้งนี้ การปลดพนักงานเริ่มขึ้นด้วยการส่งจดหมายถึงพนักงานของทวิตเตอร์ระบุว่า พนักงานราวครึ่งหนึ่งจาก 7,500 คนจะตกงาน ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดนับตั้งแต่นายมัสก์บรรลุข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโยเอล รอธ หัวหน้าฝ่ายระบบความปลอดภัยของทวิตเตอร์ได้ทวีตในวันศุกร์ว่า ทวิตเตอร์ได้สั่งปลดพนักงาน 50% แต่ได้ยืนยันกับผู้ใช้งานและผู้โฆษณาว่า การปลดพนักงานจะไม่กระทบขีดความสามารถของทวิตเตอร์ในการกลั่นกรองเนื้อหา
นายรอธระบุว่า ทวิตเตอร์ปรับลดพนักงาน 15% ของทีมงานด้านความปลอดภัยของเนื้อหาซึ่งรับผิดชอบในการป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและเนื้อหาที่เป็นอันตราย
ขณะที่สหรัฐจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พ.ย.นี้ นายรอธระบุว่า การจัดการกับข้อมูลที่เป็นอันตรายนั้น จะยังคงเป็นความสำคัญอันดับแรก