แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า บริษัททวิตเตอร์กำลังติดต่อพนักงานหลายสิบรายที่ถูกเลิกจ้างให้กลับทำงานอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทปลดพนักงานราวครึ่งหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 พ.ย.)
แหล่งข่าวระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากพนักงานบางส่วนถูกบริษัททวิตเตอร์เลย์ออฟด้วยความเข้าใจผิด นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารของทวิตเตอร์เพิ่งตระหนักได้ว่าพนักงานบางส่วนมีผลงานและประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการทำงานตามวิสัยทัศน์ของนายอีลอน มัสก์ เจ้านายคนใหม่ของทวิตเตอร์
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์สั่งปลดพนักงานประมาณ 3,700 รายผ่านทางอีเมลเพื่อลดต้นทุน หลังจากที่นายมัสก์บรรลุข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์ในราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ไปเมื่อช่วงปลายเดือนต.ค. โดยพนักงานหลายคนเพิ่งรู้ตัวว่าตกงานหลังจากที่ถูกระงับการเข้าถึงระบบภายในของบริษัท เช่น อีเมล และแอปสแล็ค (Slack)
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายมัสก์กดดันให้พนักงานอีกราว 3,700 รายที่เหลือเร่งทำงานเพื่อออกฟีเจอร์ใหม่ ๆ โดยบางรายถึงขั้นต้องนอนในออฟฟิศเพื่อทำงานให้ทันกำหนด
ก่อนหน้านี้ นายมัสก์ระบุว่า ทางบริษัทจะเก็บเงินเดือนละ 8 ดอลลาร์สำหรับการสมัครใช้บริการทวิตเตอร์บลู (Twitter Blue) ซึ่งผู้ใช้งานบริการดังกล่าวจะได้สิทธิ์การแสดงสถานะ "ได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว" (verified) หรือ "เครื่องหมายถูกสีขาวบนพื้นหลังสีฟ้า" ตลอดจนสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น ลดจำนวนโฆษณาลงครึ่งหนึ่ง โพสต์วิดีโอได้นานขึ้น และทวีตของสมาชิกทวิตเตอร์บลูจะได้รับการจัดอันดับให้อยู่ตำแหน่งบน ๆ ในผลการค้นหา ในการตอบกลับหรือการอ้างถึง
อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ว่า ทวิตเตอร์จะเลื่อนกำหนดการออกแผนเก็บเงิน 8 ดอลลาร์ดังกล่าวออกไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เนื่องจากมีพนักงานและผู้ใช้งานบางรายกังวลว่าแผนดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้สร้างความแตกแยกในสังคม