ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันพุธ (9 พ.ย.) โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคใดจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของราคาคริปโทเคอร์เรนซียังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,513.94 จุด ร่วงลง 646.89 จุด หรือ -1.95%
-- ไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ โดยการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลให้บริษัทเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งก่อตั้งโดยนายแซม แบงก์แมน-ฟรายด์ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะล้มละลาย
การกลับลำยกเลิกแผนซื้อกิจการมีขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากที่นายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอของไบแนนซ์ได้สร้างความตกตะลึงให้กับตลาดคริปโทฯ ด้วยการประกาศว่าไบแนนซ์และเอฟทีเอ็กซ์ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (letter of intent) โดยไม่มีข้อผูกมัดเพื่อซื้อกิจการของเอฟทีเอ็กซ์และจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่เอฟทีเอ็กซ์ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าไบแนนซ์ซื้อกิจการเอฟทีเอ็กซ์ด้วยวงเงินเท่าใด ขณะที่นักลงทุนประเมินมูลค่าของเอฟทีเอ็กซ์ไว้ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์
-- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะจัดการแถลงข่าวในวันนี้เกี่ยวกับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งพรรคเดโมแครตได้รับคะแนนเสียงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ไม่ทิ้งห่างจากพรรครีพับลิกันมากนัก
ทั้งนี้ การแถลงข่าวดังกล่าวจะมีขึ้นในเวลา 16.00 น. หรือตรงกับเวลา 04.00 น.ของเช้าวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย.ตามเวลาไทย
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.8% หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 24.1% ในเดือนก.ย.
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 700,000 บาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1 ล้านบาร์เรล
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 0.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ โดยผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 6.6% ในเดือนก.ย.
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ จีนจะเปิดเผยยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนเดือนต.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.