กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานประจำปีในวันนี้ (16 พ.ย.) ระบุว่า ออสเตรเลียควรดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่เข้มงวดต่อไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แม้คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะชะลอตัวลงอย่างมากในปีหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงด้านขาลงต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงราคาบ้านที่ลดลง
IMF ได้ขานรับความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของรัฐบาลพรรคแรงงานชุดใหม่ในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แม้ว่า IMF แนะนำให้กำหนดราคาคาร์บอนซึ่งจะเป็นความท้าทายทางการเมือง
IMF ระบุว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น นับเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีการฟื้นตัวแข็งแกร่งที่สุด โดยคาดว่าอาจเติบโต 3.7% ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียอาจชะลอลงเหลือเพียง 1.7% ในปี 2566/2567 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น, ภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง, อุปสงค์การส่งออกที่ลดลง และราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวลง
รายงานของ IMF ระบุว่า "เศรษฐกิจออสเตรเลียจะชะลอตัวในลักษณะซอฟต์แลนดิ้ง ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลงและปัจจัยภายในประเทศบางส่วนยังคงฟื้นตัว"
"การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปรับสมดุลอุปสงค์ภายในประเทศ และตรึงระดับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 2.75% แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 2.85% และจำเป็นต้องปรับขึ้นอีกในระยะสั้น