สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นแบบตื้นเขิน
รายงานระบุว่า ยูโรโซนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก นับตั้งแต่รัสเซียยกพลบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนก.พ. โดยการออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย การยุติการนำเข้าก๊าซของรัสเซียแบบกะทันหัน และความจำเป็นในการสนับสนุนทางการเงินแก่ภาคครัวเรือนและบริษัทต่าง ๆ ที่เผชิญปัญหาจากวิกฤตพลังงาน ได้บั่นทอนแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากที่ช่วงต้นปีนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเร็วกว่าสหรัฐ
นายโฮลเกอร์ ชมีดิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารเบเรนเบิร์กให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย.ว่า "ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงอย่างมาก จนภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่น่าจะเกิดขึ้นอย่างตื้นเขิน"
ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย. แม้หลังจากนั้นจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ภาคครัวเรือนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตและฐานะทางการเงินส่วนตัว
ทั้งนี้ นายชมีดิง กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของยูโรโซนที่ได้รับการปรับค่าเงินเฟ้อแล้วนั้น จะหดตัวอย่างหนักในไตรมาสที่ 4/2565 และไตรมาสแรกของปี 2566 โดยหดตัวสะสม 1.7%
อนึ่ง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึง เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน