นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า อุปสรรคด้านการค้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับจีนและประเทศอื่น ๆ ในปีที่ผ่านมา อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดจากการทำสงครามในยูเครน
"สิ่งที่ดิฉันหวังจะได้เห็นก็คือ การยกเลิกการปิดกั้นด้านนโยบายต่อจีนและทั่วโลก" นางจอร์เจียวากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนายสตีเฟน แองเกิลของสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก เทเลวิชันที่กรุงเทพในวันนี้ (19 พ.ย.)
"ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกจะสูญหายไป 1.5% เพียงเพราะความขัดแย้งที่อาจจะแบ่งแยกเราออกเป็นสองกลุ่มการค้า ซึ่งความเสียหายดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์"
นางจอร์เจียวากล่าวนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่กรุงเทพฯ ว่า สำหรับภูมิภาคเอเชียนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจรุนแรงเป็นสองเท่า หรือมากกว่า 3% ของ GDP เนื่องจากภูมิภาคเอเชียมีการบูรณาการเข้ากับห่วงโซ่คุณค่าโลก (Global Value Chains - GVC) มากขึ้น
นางจอร์เจียวากล่าวว่า บรรดาประเทศในเอเชียต้องทำงานร่วมกันในการเอาชนะความแตกแยกเพื่อรักษาการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่เกิดจากโรคโควิด-19, สงครามในยูเครน และค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลกนั้น แต่ปัจจัยใหญ่สุดปัจจัยเดียวที่จะกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกก็ยังคงเป็นสงครามในยูเครน
"ปัจจัยใหญ่ที่สุดที่จะทำลายเศรษฐกิจโลกคือสงคราม ยิ่งสงครามยุติลงเร็วเท่าใด ก็ยิ่งดี" นางจอร์เจียวากล่าว