เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) และบริษัทในเครือประมาณ 100 แห่งเริ่มตรวจสอบทรัพย์สินทั่วโลกภายใต้กระบวนการยื่นขอล้มละลาย โดยนายจอห์น เรย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของเอฟทีเอ็กซ์ ระบุเมื่อวันเสาร์ (19 พ.ย.) ว่า บริษัทกำลังพิจารณาเรื่องการขาย หรือปรับโครงสร้างธุรกิจทั่วโลก แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของบาฮามาสและเอฟทีเอ็กซ์ยังคงขัดแย้งกันว่า ควรดำเนินกระบวนการขอล้มละลายในศาลรัฐนิวยอร์ก หรือในรัฐเดลาแวร์
"จากที่เราได้ดำเนินการตรวจสอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราพบว่า ธุรกิจที่มีใบอนุญาตในเครือเอฟทีเอ็กซ์ทั้งในและนอกสหรัฐนั้นมีงบดุลในเกณฑ์ดี รวมถึง มีการจัดการที่รับผิดชอบ และสาขาที่มีคุณค่า" นายเรย์กล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายเรย์ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอฟทีเอ็กซ์แทนนายแซม แบงค์แมน-ฟรีดในช่วงที่บริษัทยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย โดยเขากล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้าคือการสำรวจเรื่องการขาย การปรับฐานการเงิน หรือการทำธุรกรรมเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ในธุรกิจในเครือของเรา"
ทั้งนี้ เอฟทีเอ็กซ์ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการขายธุรกิจในเครือ โดยเอฟทีเอ็กซ์ระบุว่า จะไม่เปิดเผยพัฒนาการเพิ่มเติมจนกว่าบริษัทจะเห็นว่า การเปิดเผยรายละเอียดดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องเหมาะสม หรือจำเป็น
ขณะนี้ เอฟทีเอ็กซ์และหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของบาฮามาสพยายามผลักดันให้ดำเนินกระบวนการล้มละลายกันฝ่ายละรัฐ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบของบาฮามาสได้ย้ายสินทรัพย์ดิจิทัลหลายร้อยล้านดอลลาร์จากการถือครองของเอฟทีเอ็กซ์มาเก็บเอาไว้เอง
ด้านสำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า เอฟทีเอ็กซ์ได้ทำการปลดผู้บริหารระดับสูง 3 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงผู้ร่วมก่อตั้งเอฟทีเอ็กซ์ โดยทั้งหมดเป็นผู้ช่วยของนายแบงค์แมน-ฟรีด