หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานโดยอ้างอิงคาดการณ์จากโกลด์แมน แซคส์ว่า สหรัฐและยุโรปอาจลดการพึ่งพาจีนในด้านแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าผ่านการใช้จ่ายทุนครั้งใหม่มากกว่า 1.60 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2573
รายงานของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ทีมนักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐสามารถตอบสนองอุปสงค์ด้านแบตเตอรี่สำเร็จรูปได้โดยไม่ต้องพึ่งพาจีนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากการลงทุนในสหรัฐโดยกลุ่มบริษัทแอลจี (LG) และเอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ไฟแนนเชียล ไทม์สระบุว่า รายงานดังกล่าวได้คำนวณว่า สหรัฐและยุโรปจะต้องใช้เงินราว 7.82 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับแบตเตอรี่, 6.04 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับวัตถุดิบ และ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการทำเหมืองแร่ลิเทียม, นิกเกิล และโคบอลต์ ตลอดจน 1.21 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการสกัดแร่ดังกล่าว เพื่อบรรลุเป้าหมายห่วงโซ่อุปทานแบบพอเพียงโดยไม่ต้องพึ่งพาจีน
โกลด์แมนคาดการณ์ว่า ส่วนแบ่งตลาดสหรัฐของผู้ผลิตแบตเตอรี่จากเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นสู่ประมาณ 55% ในระยะเวลา 3 ปี จาก 11% ในปี 2564
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จีนยังคงครอบครองวงการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งรวมถึงการทำเหมืองและการสกัดแร่ดิบ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า การครอบครองตลาดของจีนอาจคลี่คลายลงได้ ด้วยนโยบายกีดกันทางการค้าในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ควบคู่ไปกับการพัฒนาเคมีภัณฑ์แบตเตอรี่ทางเลือกที่ต้องอาศัยแร่ธาตุที่สำคัญจากจีนน้อยลง