สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เทเลนอร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ออกแถลงการณ์ระบุว่า การควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสแรกของปี 2566
"ทั้งสองฝ่ายมีความต้องการที่จะให้ธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2566" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ TRUE และ DTAC เปิดเผยว่า บริษัท ซิทริน โกลบอล จำกัด และ Citrine Venture SG Pte Ltd ได้ประกาศยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ TRUE และ DTAC โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน เนื่องจากเงื่อนไขบังคับก่อนทำคำเสนอซื้อฯ ยังไม่แล้วเสร็จภายในกรอบเวลา 1 ปี นับจากวันที่ 20 พ.ย.64 ซึ่งเป็นวันประกาศเจตนา
อย่างไรก็ดี เทเลนอร์ระบุว่า ทางบริษัทยังคงเชื่อมั่นในประโยชน์ที่จะเกิดจากข้อตกลงดังกล่าว และบริษัทจะยังคงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC
"เทเลนอร์และซีพี กรุ๊ป ตั้งเป้าหมายที่จะมีสัดส่วนการถือครองหุ้นที่เท่าเทียมกันราว 30% ในบริษัทที่จะเกิดจากการควบรวมกิจการ" แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. เทเลนอร์เรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ทำการชี้แจงเงื่อนไขที่กสทช. ระบุไว้ในมติรับทราบการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทเลนอร์ กล่าวว่า บริษัทต้องการได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาผลกระทบที่จะตามมา
ต่อข้อถามที่ว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ นายเบรกเก้กล่าวว่า "เทเลนอร์กำลังทำการหารือกับกสทช.เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเงื่อนไขและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องเข้าใจว่าเงื่อนไขเหล่านี้หมายความว่าอะไร เพราะเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ โดยเรื่องหนึ่งคือโครงสร้างอัตราค่าบริการที่กสทช.ต้องการจากเรา รวมทั้งในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการ กสทช.จะเข้าใช้โครงข่ายโทรคมนาคมของเราอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ยังคงไม่มีความชัดเจน"