สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า ลูกค้าแห่โยกย้ายสินทรัพย์ของตนออกจากธนาคารเครดิตสวิส กรุ๊ป ไปยังหน่วยธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของธนาคารยูบีเอส กรุ๊ป (UBS) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเครดิตสวิสกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตศรัทธา
แหล่งข่าวระบุว่า ลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูงนับร้อยรายพยายามนำเงินไปลงใน UBS ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทาง UBS เองกำลังวางแผนจัดสรรพนักงานไปดูแลบัญชีที่เพิ่มเข้ามาใหม่เหล่านี้ นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ ยังเป็นอีกหนึ่งธนาคารที่ได้รับอานิสงส์จากภาวะกระแสสินทรัพย์ไหลออกจากเครดิตสวิสครั้งประวัติการณ์นี้ด้วย
ทั้งนี้ ลูกค้าทั่วโลกถอนเงินออกจากเครดิตสวิสมากถึง 8.4 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (8.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของไตรมาสที่ 3 ซึ่งนับว่าอาจเป็นเหตุการณ์เงินไหลออกครั้งเลวร้ายที่สุดของเครดิตสวิสนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงิน และมีส่วนให้ทางเครดิตสวิสคาดการณ์ว่าจะขาดทุนในไตรมาส 4
เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นความเสื่อมถอยครั้งสำคัญของเครดิตสวิส ขณะที่คณะผู้บริหารพยายามกอบกู้สถานการณ์ด้วยการยกเครื่ององค์กรครั้งใหญ่โดยให้ความสำคัญกับไพรเวทแบงกิ้งมากขึ้น
อนึ่ง ธนาคารทั่วโลกต่างแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้าผู้มั่งคั่งในเอเชียในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จนทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือดเพื่อหาที่ปรึกษาที่สามารถนำสินทรัพย์หลายพันล้านดอลลาร์ของลูกค้ามาสู่ธนาคารได้ โดยข้อมูลการจัดอันดับเมื่อปี 2564 จากบริษัทเอเชียน ไพรเวท แบงก์เกอร์ (Asian Private Banker) ระบุว่า UBS มีบริการไพรเวทแบงก์ใหญ่ที่สุดเมื่อวัดจากมูลค่าสินทรัพย์ ตามมาด้วยเครดิตสวิสเป็นอันดับสอง