บริษัทอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ (Oxford Economics) เปิดเผยคาดการณ์ว่า การใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) ที่นานกว่าคาดของจีน อาจทำให้การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนลดลงเกือบ 1 จุดเปอร์เซ็นต์ (percentage point) ในปีหน้า
นางหลุยส์ ลู นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ระบุในรายงานว่า ถ้าจีนเลื่อนการเปิดเศรษฐกิจไปถึงครึ่งแรกของปี 2567 นั้น การฟื้นตัวที่คาดไว้ในภาคการบริโภคของเอกชนนั้น จะล่าช้าออกไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบเกือบ 1 จุดเปอร์เซ็นต์ต่อการคาดการณ์ของบริษัทที่ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.2% ในปี 2566
"ความเสี่ยงต่อแนวโน้มมหภาคในระยะสั้นนั้นโน้มเอียงไปทางขาลงอย่างชัดเจน" นางลูระบุในรายงานโดยอ้างถึงผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวงกว้างทั่วประเทศ โดยอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์คาดการณ์ว่า จีนจะเปิดเศรษฐกิจในวงกว้างได้อีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อต้นเดือนพ.ย.นี้ จีนประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อปรับมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ให้เหมาะสม ซึ่งเพิ่มความหวังว่า ทางการจีนจะดำเนินการมากขึ้นเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการควบคุมโรคโควิด-19 ก่อนจะค่อย ๆ เปิดเศรษฐกิจอีกครั้งในปี 2566
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นทำให้สถานที่หลายแห่งต้องกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวดแบบเดิม ซึ่งทำให้เมืองสำคัญต่าง ๆ ของจีน รวมถึงปักกิ่งและกว่างโจวอยู่ในภาวะชะงักงัน และส่งผลกระทบต่อความคาดหวังในการเปิดเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการคาดการณ์ของอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์เกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน โดยนางลูกล่าวว่า ถ้าผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีความรุนแรงใกล้เคียงกับในช่วงไตรมาส 2/2565 เมื่อเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนถูกล็อกดาวน์นั้น อ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์จะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงสู่ 2-2.5% โดยลดลงจากระดับคาดการณ์ในปัจจุบันที่ 3.1%