World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 29, 2022 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อะโดบี อิงค์เปิดเผยว่า นักชอปชาวสหรัฐใช้จ่ายเป็นมูลค่า 6.3 พันล้านดอลลาร์แล้วในวัน Cyber Monday ซึ่งบ่งชี้ว่า การลดราคาสินค้าลงอย่างมากได้ดึงดูดนักชอปที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ

อะโดบีเปิดเผยว่า การใช้จ่ายในวัน Cyber Monday จะแตะระดับสูงถึง 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายออนไลน์ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

-- หุ้นแอปเปิ้ลปิดตลาดวานนี้ร่วงลง 2.63% หลังจากมีรายงานว่า เหตุการณ์ประท้วงที่โรงงานของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นผู้ผลิต iPhone ให้กับบริษัทแอปเปิ้ลนั้น จะส่งผลให้ยอดการผลิต iPhone Pro ลดลงถึง 6 ล้านเครื่องในปีนี้

วิกตอเรีย เฟอร์นันเดซ นักวิเคราะห์จากบริษัทครอสมาร์ค โกลบอล อินเวสต์เมนท์กล่าวว่า "ขณะนี้บริษัทแอปเปิ้ลไม่สามารถผลิต iPhone ได้ตามออเดอร์ เนื่องจากโรงงานในประเทศจีนปิดสายการผลิต สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับแอปเปิ้ลแสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์ในประเทศหนึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ ได้ เหตุการณ์ประท้วงในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่นั้น จะยิ่งส่งผลให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานทวีความรุนแรงมากขึ้นและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก"

-- สถาบันบรู้กกิงส์เปิดเผยว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลังในวันที่ 30 พ.ย.เวลา 13.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 01.30 ของวันที่ 1 ธ.ค.ตามเวลาไทย นอกจากนี้ นายพาวเวลจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเปลี่ยนชื่อ "โรคฝีดาษลิง" (monkeypox) เป็น "mpox" ในวันจันทร์ (28 พ.ย.) เพื่อขจัดความเข้าใจผิดที่ว่าโรคดังกล่าวมีสาเหตุมาจากลิงเท่านั้น เนื่องจากไวรัสชนิดนี้พบได้ในสัตว์หลายชนิด และมักพบในสัตว์ฟันแทะเป็นส่วนใหญ่

WHO ระบุว่า จะมีการใช้ชื่อ "โรคฝีดาษลิง" (monkeypox) และ "mpox" ควบคู่กันในปีหน้า ขณะที่จะมีการลดการใช้ชื่อ "โรคฝีดาษลิง" (monkeypox) อย่างค่อยเป็นค่อยไป

WHO เปิดเผยว่า ทางองค์การได้รับคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อ "โรคฝีดาษลิง" จากคนจำนวนมากและอีกหลายประเทศ เนื่องจากชื่อ "โรคฝีดาษลิง" ได้สร้างปัญหาเหยียดเชื้อชาติ และเป็นการสร้างตราบาป หลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในกว่า 100 ประเทศ

-- บิตคอยน์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 16,000 ดอลลาร์ หลัง BlockFi ประกาศล้มละลายในวันจันทร์ (28 พ.ย.)

ณ เวลา 23.11 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดิ่งลง 2.8% สู่ระดับ 16,088.79 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase

นายมาร์ค โมเบียส ผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตัล พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า บิตคอยน์ยังคงมีแนวโน้มดิ่งลงต่อไป โดยจะแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์

นอกจากนี้ นายโมเบียสกล่าวว่า เขาจะไม่นำเงินของตนเอง หรือเงินของลูกค้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากมีความเสี่ยงมากเกินไป

-- BlockFi ประกาศล้มละลายในวันจันทร์ (28 พ.ย.) โดยบริษัทยื่นเรื่องต่อศาลแขวงในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย

BlockFi ซึ่งมีมูลค่าตลาด 4.8 พันล้านดอลลาร์ เปิดเผยว่า บริษัทมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย รวมทั้งมีหนี้สินและทรัพย์สินราว 1 พันล้านดอลลาร์ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์

-- ทางการจีนได้ผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหวังที่จะลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่ลุกลามไปทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ทางการกรุงปักกิ่งประกาศยกเลิกการตั้งสิ่งกีดขวางทางเข้าอะพาร์ตเมนต์ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ภายใน โดยระบุว่าจะต้องไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคต่อการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ หรือการออกจากอาคารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนเมืองกว่างโจวประกาศงดการปูพรมตรวจเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่สำหรับประชาชนในวงกว้าง โดยอ้างถึงความจำเป็นในการรักษาทรัพยากร ขณะที่เมืองอุรุมชี เมืองหลวงของซินเจียง ประกาศเปิดตลาดสดและอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการในสัปดาห์นี้สำหรับท้องที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดในระดับต่ำ รวมทั้งให้บริการรถโดยสารสาธารณะ

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กำลังถูกท้าทายอำนาจ เพียงไม่ถึง 1 เดือนหลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 โดยขณะนี้ชาวจีนจำนวนมากพากันลุกฮือประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาล พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.สีลาออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ ชาวจีนรวมตัวกันบนท้องถนนในเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมืองอู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงล็อกดาวน์เมืองต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค., สิงคโปร์เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., อียูเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ