นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เปิดเผยว่า เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ได้เริ่มดำเนินการทบทวนเรื่องการลงทุนในเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่ล้มละลาย
เทมาเส็กเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนต.ค. 2564 จนถึงเดือนม.ค. 2565 บริษัทได้ลงทุนในเอฟทีเอ็กซ์ อินเตอร์เนชันแนล (FTX International) ด้วยการถือหุ้นราว 1% และถือหุ้น 1.5% ในบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ ยูเอส (FTX US) คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.09% ของมูลค่าพอร์ตการลงทุนสุทธิของเทมาเส็กซึ่งอยู่ที่ 4.03 แสนล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2.9423 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ณ สิ้นเดือนมี.ค.ปีนี้
นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และนายหว่องต้องเผชิญกับคำถามชุดใหญ่จากรัฐสภาในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับความเสียหายของบรรดานักลงทุนรายย่อยและความรอบคอบในการตรวจสอบของบริษัทเทมาเส็ก หลังจากที่บริษัทได้เซ็นสัญญาลงทุนมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน FTX
นายหว่องกล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในเอฟทีเอ็กซ์ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่ากังวล และทำให้รัฐบาลต้องพิจารณาหาทางแก้ไขอย่างรอบคอบ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เอฟทีเอ็กซ์ได้ยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย โดยมีบริษัทในเครือของเอฟทีเอ็กซ์ราว 130 บริษัทที่เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ซึ่งรวมถึงบริษัทอลาเมดา รีเสิร์ช และเอฟทีเอ็กซ์ ยูเอส
การยื่นขอล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ส่งผลให้ลูกค้าและนักลงทุนกลุ่มอื่น ๆ ประมาณ 1 ล้านคนได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ การล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ ทั่วโลก รวมทั้งฉุดราคาบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ ทรุดตัวลงอย่างหนัก